ต่อเติมโรงรถติดบ้านทาวน์โฮม ควรรู้เรื่องโครงสร้างอะไรบ้าง
ต่อเติมโรงรถทาวน์โฮม ให้ปลอดภัยและใช้งานได้จริง ต้องวางแผนตั้งแต่โครงสร้างพื้นจนถึงหลังคา

การต่อเติมโรงรถสำหรับบ้านทาวน์โฮม เป็นหนึ่งในงานต่อเติมที่เจ้าของบ้านจำนวนมากให้ความสำคัญ เพราะพื้นที่หน้าบ้านส่วนใหญ่มักเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาและไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นพื้นที่จอดรถที่สมบูรณ์ การต่อเติมโรงรถจึงช่วยให้สามารถใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกันแดด กันฝน เพิ่มพื้นที่อเนกประสงค์ หรือปรับฟังก์ชันให้บ้านดูครบและน่าอยู่ขึ้น
อย่างไรก็ตาม การต่อเติมโรงรถไม่ใช่เพียงแค่หาวัสดุมาปิดคลุมให้จบเท่านั้น แต่มีรายละเอียดด้านโครงสร้างและข้อกฎหมายที่ควรรู้ หากละเลยอาจเกิดปัญหาตามมา เช่น รอยแตกร้าว น้ำรั่วซึม การทรุดตัวไม่เท่ากัน หรือกรณีเลวร้ายที่สุดคือถูกนิติบุคคลหรือหน่วยงานท้องถิ่นสั่งให้รื้อถอน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเรื่องสำคัญทั้งหมดที่ควรรู้ก่อนเริ่มงานต่อเติมโรงรถ
โครงสร้างพื้น จุดเริ่มต้นที่ไม่ควรมองข้าม
พื้นเป็นส่วนสำคัญมากในการต่อเติมโรงรถ เพราะหากวางระบบไม่ดี จะส่งผลต่อทั้งความแข็งแรง การระบายน้ำ และอายุการใช้งาน
- แยกพื้นเดิมกับพื้นต่อเติมให้ชัดเจน: ไม่ควรเทปูนเชื่อมต่อพื้นใหม่เข้ากับพื้นเดิมโดยตรง ควรเว้นร่อง Joint หรือเว้นระยะเพื่อให้แต่ละส่วนทรุดตัวได้อิสระ ป้องกันการแตกร้าวภายหลัง
- ปรับระดับพื้นให้ลาดเอียงออกนอกตัวบ้าน: โดยทั่วไปนิยมให้ลาดประมาณ 1–2 เซนติเมตรต่อระยะ 1 เมตร เพื่อป้องกันน้ำฝนไหลย้อนเข้าในบ้าน
- เลือกวัสดุปูพื้นที่เหมาะกับการใช้งานจริง: หากเป็นพื้นที่จอดรถจริง ควรเลือกวัสดุที่ทนทานต่อแรงกด เช่น ปูนขัดหยาบหรือกระเบื้องภายนอกแบบกันลื่น ไม่ควรใช้กระเบื้องเงามันวางบริเวณนี้
โครงสร้างเสาและคานรับน้ำหนัก
โครงสร้างเสาและคานมีบทบาทสำคัญมาก เพราะจะเป็นส่วนที่รับน้ำหนักของหลังคาและแรงลมฝนทั้งหมด
- แยกฐานรากของเสาออกจากโครงสร้างบ้านเดิม: เพื่อป้องกันการทรุดตัวไม่เท่ากัน โดยเฉพาะในทาวน์โฮมที่ฐานรากเดิมมักออกแบบมาเพื่อรับน้ำหนักตัวอาคารเท่านั้น
- เลือกวัสดุเสาและคานที่แข็งแรงเหมาะสม: นิยมใช้เหล็กหรือคอนกรีตเสริมเหล็ก ขึ้นอยู่กับรูปแบบของหลังคาและงบประมาณ ระยะยื่นของคานต้องคำนวณให้เหมาะสม หากยื่นยาวเกินไปโดยไม่มีค้ำยัน อาจเกิดการแอ่นหรือล้มได้
- เว้นช่องขยาย (Expansion Joint): ระหว่างตัวบ้านและส่วนต่อเติมเพื่อป้องกันแรงดึงและรอยแตกร้าวจากการทรุดตัวไม่เท่ากัน
โครงสร้างหลังคา ป้องกันปัญหารั่วซึมและเสียงดัง
หลังคาเป็นส่วนที่เจ้าของบ้านให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะนอกจากกันแดดกันฝนแล้ว ยังต้องรับแรงลมและป้องกันน้ำรั่วได้ดี
- เลือกทรงหลังคาให้เหมาะกับพื้นที่และทิศทางลม: เช่น บ้านที่หันหน้าทิศตะวันตกควรเลือกหลังคาที่กันความร้อนได้ดี บ้านที่อยู่ในซอยแคบควรเลือกทรงที่ระบายน้ำได้รวดเร็ว เช่น หลังคาเพิงหมาแหงน
- วัสดุหลังคายอดนิยมสำหรับโรงรถ:
- เมทัลชีท: น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ราคาย่อมเยา แต่ควรบุฉนวนกันความร้อนและเสียง
- โพลีคาร์บอเนต: โปร่งแสง ให้แสงธรรมชาติ เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความโปร่ง แต่ควรเลือกเกรดคุณภาพดีเพื่อป้องกัน UV และการบิดงอ
- กระเบื้องลอนคู่: แข็งแรง ทนทาน ดูสวยแบบคลาสสิก แต่มีน้ำหนักมาก ต้องคำนวณโครงสร้างรับให้เหมาะสม
- จัดการระบบระบายน้ำอย่างรอบคอบ: ต้องมีรางน้ำและความยื่นของปลายหลังคาที่เพียงพอ ไม่ให้ฝนสาดย้อนเข้าบ้าน
ข้อกฎหมายและการขออนุญาต
หลายคนอาจไม่ทราบว่า การต่อเติมโรงรถบางประเภทจำเป็นต้องขออนุญาตจากสำนักงานเขตหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะบ้านในโครงการหมู่บ้านจัดสรร
- กรณีที่ต้องขออนุญาตก่อสร้าง: เช่น มีเสา คาน ฐานราก และหลังคาถาวร ต้องยื่นแบบก่อสร้างตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร
- กรณีไม่ต้องขออนุญาต: เช่น โครงสร้างเบาแบบชั่วคราว ไม่กระทบพื้นที่เพื่อนบ้าน ไม่บังแสง ไม่ล้ำแนวเขต แต่อย่างไรก็ต้องตรวจสอบข้อกำหนดของนิติบุคคลก่อนเริ่มงาน
- ตรวจสอบกฎของโครงการหมู่บ้าน: บางแห่งมีกฎห้ามต่อเติมเกินระยะที่กำหนด ห้ามเปลี่ยนหน้าบ้าน ควรเช็กให้แน่ชัดเพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง
ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อทำงานต่อเติมโรงรถไม่ถูกต้อง
- พื้นแตกร้าวเพราะไม่ได้เว้นร่องแยกโครงสร้าง
- น้ำฝนไหลย้อนเข้าบ้านเนื่องจากไม่ปรับระดับพื้น
- หลังคารั่วซึมตามจุดรอยต่อ
- เสาและหลังคาแอ่นตัวจากการคำนวณโครงสร้างผิด
- ถูกหน่วยงานหรือเพื่อนบ้านร้องเรียนให้รื้อถอน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการต่อเติมโรงรถ
Q1: ต่อเติมโรงรถจำเป็นต้องขออนุญาตก่อสร้างไหม
A: ถ้ามีโครงสร้างถาวร เช่น เสา คาน ฐานราก หรือหลังคาที่ติดตั้งถาวร ต้องยื่นขออนุญาตก่อสร้างตามกฎหมายอาคาร หากเป็นโครงสร้างเบาและไม่กระทบพื้นที่ข้างเคียง อาจไม่ต้องขอ แต่ควรสอบถามหน่วยงานท้องถิ่นให้ชัดเจน
Q2: งบประมาณในการต่อเติมโรงรถโดยทั่วไปอยู่ที่เท่าไหร่
A: โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 50,000–150,000 บาท ขึ้นอยู่กับวัสดุและรูปแบบงาน เช่น เมทัลชีทจะราคาถูกกว่าโพลีคาร์บอเนต
Q3: ใช้เวลานานแค่ไหนในการต่อเติมโรงรถ
A: หากเป็นโครงสร้างเหล็กเบา ใช้เวลาประมาณ 3–7 วัน แต่ถ้ามีงานฐานรากหรือหลังคากระเบื้องอาจใช้เวลานานถึง 2–3 สัปดาห์
Q4: จำเป็นต้องให้วิศวกรตรวจแบบไหม
A: ถ้างานมีขนาดใหญ่หรืออยู่ใกล้แนวเขต ควรให้วิศวกรตรวจแบบและรับรองโครงสร้างเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
ทำไมควรเลือกสรสิชคอนสตรักชั่นสำหรับงานต่อเติมโรงรถ
การต่อเติมโรงรถที่ดีไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ต้องถูกต้องตามหลักวิศวกรรมและกฎหมาย ห้างหุ้นส่วนจำกัด สรสิชคอนสตรักชั่น มีความเชี่ยวชาญด้านงานต่อเติมบ้านและทาวน์โฮมโดยเฉพาะ
- ทีมช่างและวิศวกรมีประสบการณ์จริง
- วางระบบโครงสร้างถูกต้อง ปลอดภัย และทนทาน
- ใช้วัสดุคุณภาพและเทคนิคการติดตั้งมาตรฐาน
- ออกแบบและให้คำปรึกษาตามงบประมาณของลูกค้า
- ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำฟรีและประเมินราคาแบบมืออาชีพ ได้ทุกช่องทางที่
ห้างหุ้นส่วนจำกัด สรสิชคอนสตรักชั่น
123/105 หมู่บ้านประภาทรัพย์ 5 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510
โทรศัพท์: 061-998-7961, 089-799-5614
อีเมล์: sorasid22@gmail.com | ไลน์ไอดี : 0619987961